คนธรรมดาถูก สอนให้จำกัดความฝันของพวกเขา ถูกสอนให้เชื่อว่าความฝันวัยเด็กของเขานั้นเป็นไปไม่ได้ และพวกเขาก็เลือกที่จะปล่อยวางความฝันนั้น แล้วใช้ชีวิตอยู่กับปัจจุบันเพียงอย่างเดียว ในขณะที่คนประสบความสำเร็จนั้น มีฝันเช่นเดียวกันแต่พวกเขาไม่ยอมให้คนอื่นโขมยความฝันของพวกเขาไป และไม่ยอมให้ใครก็ตามบอกว่าฝันนั้นเป็นไปไม่ได้
ผมเคยดูหนังเรื่องหนึ่งที่ดัดแปลงมาจากชีวิตจริงของ ชายผู้หนึ่งที่ไม่ยอมละทิ้งความฝัน และนี่่คือประโยคที่ชายผู้นั้นได้กล่าวกับลูกชายของเขา และผมอยากจะถ่ายทอดให้กับทุกท่าน
"อย่าให้ใครมาบอกลูกว่า ลูกทำอะไรไม่ได้ หรือไม่สามารถเป็นอะไรได้ ถ้าลูกมีฝัน ลูกต้องปกป้องมัน"
"อย่าให้ใครมาบอกลูกว่า ลูกทำอะไรไม่ได้ หรือไม่สามารถเป็นอะไรได้ ถ้าลูกมีฝัน ลูกต้องปกป้องมัน"
ผมเองก็อยากจะบอกคุณเช่นเดียวกันครับว่า จงฝันเถอะครับ ฝันให้ไกล แล้วไปให้ถึง เพราะคุณเอง กำลังอยู่ในธุรกิจที่ความฝันมีส่วนสำคัญที่สุดต่อความสำเร็จของคุณ
ถ้าฝันคุณไม่ชัดเจน คุณจะลงมือทำแบบไม่สม่ำเสมอ และนั่นย่อมทำให้ผลลัพธ์ = 0 เช่นเดิม
ถ้าคุณไม่มีฝัน คุณจะไม่ลงมือทำอะไรเลย และติดอยู่กับสิ่งที่คุณเป็นอยู่นี้ตลอดไป
สร้างความเป็นไปได้ให้กับความฝันของคุณ ขยายความฝันของคุณให้มันใหญ่เกินกว่าเดิม
แล้วลงมือทำแบบสุดชีวิต เพื่อเปลี่ยนความฝันของคุณให้กลายเป็นความจริงในที่สุด
แล้วลงมือทำแบบสุดชีวิต เพื่อเปลี่ยนความฝันของคุณให้กลายเป็นความจริงในที่สุด
สิ่งที่ผู้คนมากมายทำผิดพลาดเกี่ยวกับธุรกิจนี้ ก็คือพวกเขามองหาวิธีการอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นวิธีการสปอนเซอร์ผู้มุ่งหวังแบบใหม่ วิธีการปิดการขายแบบใหม่ หรือวิธีการขายสินค้าแบบใหม่ แต่สิ่งที่พวกเขาไม่รู้เลยนั่นก็คือ วิธีการทั้งหมดที่หามานั้น ไม่สามารถการันตีความสำเร็จแบบ 100% อย่างที่พวกเขาต้องการ เพราะถ้าพวกเขายังไม่สามารถทำตัวเป็นผู้ประสบความสำเร็จได้ ถึงแม้พวกเขาจะได้รับสุดยอดวิธีการ สุดท้ายพวกเขาก็ยังล้มเหลว
สิ่งที่สำคัญที่สุดนั่นคือวิธีคิดต่างหาก เมื่อใดที่คุณสามารถเปลี่ยนแนวคิดของคุณ การกระทำของคุณเป็นแบบผู้ที่ประสบความสำเร็จ คุณก็จะกลายเป็นผู้ประสบความสำเร็จแบบ 100% ไม่ว่าวิธีการที่คุณใช้จะเก่าขนาดไหน หรือมีผู้คนล้มเหลวมามากขนาดใดก็ตาม
แชร์ความรู้ดี ๆกับผมได้ที่
rashane_marine@hotmail.com
Tel - 0837077661
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น